IMDB : tt0465494
คะแนน : 7
มาพิจารณาตัวเองระยะนี้ (ดูจากรีวิวสามเรื่องล่าสุดของผมก็ได้ครับ) รู้สึกได้เลยว่าตัวเองต้องการการพักผ่อนสมองอย่างหนัก ดูหนังอะไรก็ได้ที่สบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อน เน้นความสะใจเป็นหลัก
Hitman เรื่องนี้ก็สร้างจากวีดีโอเกมยอดฮิตน่ะครับ เริ่มจาก PC แล้วก็ไปต่อ Play2 สร้างต่อเนื่องกันมาสี่ภาคแล้ว ภาคห้านี่จ่อคิวรออีกปีหน้า ใครเคยเล่นก็น่าจะทราบในความสะใจล่ะครับ ยิงกันเข้าไป เอามันส์และลุ้นกันไปข้างนึง แต่ก็น่าคิดเหมือนกันว่าหนังสร้างจากเกมเรื่องนี้จะมาอีท่าไหน เข้าท่าเข้าทางหรือไม่หว่า เพราะหนังที่สร้างจากเกมหลายเรื่อง เล่นเอาคนดูเซ็งเป็ดมาแล้ว
เนื้อเรื่องก็จับเอาตัวเอกในเกม คือ เอเยนต์ 47 (Timothy Olyphant) ยอดมือสังหารระดับพระกาฬ ที่ทำงานไม่เคยพลาด กลับต้องมาพัวพันกับปริศนาเมื่อการลงมือสังหารของเขาเกิดมีการผิดพลาด คนที่เขาจัดการสังหารไปแล้วกลับยังมีชีวิตอยู่ ทีนี้เขาก็เริ่มสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากลแล้วครับ อีแบบนี้มีคนกำลังเดินแผนโดยมีเขาเป็นหมากอยู่แน่นอน 47 เลยต้องจัดการตามล่าหาความจริง พร้อมทั้งปราบสารพัดมือสังหารที่ถูกผู้บงการสั่งมาฆ่าเขา ระหว่างนั้นก็ยังต้องรับมือกับ ไมค์ วิทเธียร์ (Dougray Scott) ตำรวจมือปราบที่กัดคดีเขาแบบไม่ปล่อย นอกจากนี้ เขายังต้องพิทักษ์ชีวิตของนิก้า โบโรนิน่า (Olga Kurylenko) พยานสาวที่อาจจะช่วยเขาในการไขปริศนาแผนชั่วของพวกวายร้ายครั้งนี้
นี่ถ้ากันเฉพาะเนื้อเรื่องก็บอกได้เลยว่าคุ้นอย่างแรงจริงไหมครับ แนวนักฆ่าสักคนที่ต้องมาโดนองค์กรตามล่า ต้องมีผูหญิงมาพัวพันให้เป็นภาระของพระเอกเล่น และต้องมีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ดีๆ สักคนมาคอยไล่ล่าเขา หรือไม่ก็มาเป็นคู่หูในตอนท้าย
นี่ถ้าไม่ใช่ว่าสร้างจากเกม Hitman ก็เข้าข่ายหนังแนวเดิมอีกอยู่ดี
แต่ก็นั่นแหละ เอาของเดิมๆ มาทำหากทำให้ดีก็สนุกได้เหมือนกัน แล้ว Hitman ล่ะเป็นอย่างไร
ถ้าว่ากันตรงไปตรงมา ผมว่า Hitman ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากมาย ในฐานะคนเคยผ่านเกมนี้มาก่อน ก็ยอมรับว่าหลายๆ ฉากมันก็เข้าท่า ให้อารมณ์เกมในระดับหนึ่ง แต่คาแร็คเตอร์พี่ 47 มันไม่ค่อยให้อารมณ์เหมือนเกมยังไงก็ไม่ทราบ แต่ก็เข้าใจทีมงานแหละครับ เพราะพี่ 47 ในเกมแกจะออกแนวนิ่งๆ มือพระกาฬ ไม่แสดงอารมณ์อะไรง่ายๆ หรอก ไม่เหมือน Max Payne ทีนี้ถ้าเอาบุคลิกในเกมมาทั้งดุ้นก็คงเหมือนนักฆ่ารุ่นเก่าๆ แบบนักฆ่าลีออง (ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะเกมก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก หนังของ Luc Besson พวก Nikita แล้วก็ The Professional นี่แหละครับ) เลยต้องมีการพยายามใส่อะไรใหม่ๆ ลงไปบ้าง แต่ถึงใหม่ยังไงก็ไม่ทำให้มันน่าสนใจไปกว่านี้ (ในใจผม นักฆ่ามือดีผมนึกถึงแต่เฮียโจวเหวินฟะ ใน The Killer)
Olyphant ตอนเห็นในโปสเตอร์ผมว่าแกเหมาะนะ ดูเท่ห์กับบทเท่ห์ดี เหมือนดูหน้าปกเกมเลย แต่พอมาดูแกเล่นจริงตามท้องเรื่องแล้ว ผมกลับรู้สึกว่าพี่แกหาได้เด่นอะไรไม่ นอกจากรูปลักษณ์หัวล้านโป่งเหน่งเท่งโหน่งแล้วก็มีแค่ความเท่ห์และชุดที่มีสไตล์เป็นพักๆ อย่างอื่นไม่ทำให้รู้สึกจดจำเท่าไร เห็นว่าตอนแรกเขาจะให้ Vin Diesel มาแสดงนะครับ แต่พี่ Vin ก็ไม่เอา ซึ่ง Olyphant มีหน่วยก้านไม่เลว แต่ท่าทางยังไม่เด็ดพอ ตามปกตินักฆ่าระดับนี้ไปถึงไหนมันต้องแผ่รัศมีความเป็นเทพได้อย่างทั่วถึง แต่นี่พี่แกยังไม่แข็งพอที่จะแผ่รัศมีขนาดนั้นได้
ส่วน Scott ก็ถือว่าแสดงได้ดีครับ แต่ก็ไม่เด่นพอกัน แม้แต่นางเอกอย่าง Kurylenko ที่จ่อคิวไปเล่นเป็นสาวบอนด์ในหนังบอนด์ตอนที่ 22 ก็ยังออกมาธรรมดาซะเหลือเกิน
ในเรื่องนั้น ตัวละครดูนิ่ง แบนราบจนเกินคาด อะไรๆ มันก็เลยดูนิ่งตาม ถือว่าผิดคาดไปเยอะ เพราะหนังแอ็กชันตัวละครไม่น่าจะไร้เสน่ห์ขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องมีตัวขโมยซีนประจำเรื่อง แต่นี่ไม่มีเลย งงเหมือนกัน
แต่ก็ต้องชมมุมกล้อง กับฉากแอ็กชันบู๊ยิงกันที่ถือว่ามันส์ใช้ได้ มีความเท่ห์อยู่เป็นระยะๆ
สรุปคืออยากลองดูหนังแอ็กชันสักเรื่องไหมล่ะครับ เรื่องนี้ถือว่าไม่เลว พอสะใจได้ ความยาวก็ไม่มากเกินไป แต่ถ้าถามความประทับใจส่วนตัวผมว่าหนังก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมครับ ผมชอบพวก Shoot’em Up หรือ Rouge Assassin มากกว่า เรื่องราวดูเนียนกว่า ยิ่ง Shoot’ em Up นี่ถ้าเทียบแล้วเหนือกว่าไปหลายระดับชั้นเลย
แนะนำว่าเหมาะกับคอแอ็กชันสบายๆ ไม่คิดมากครับ คอเกมก็ไม่น่าจะประทับใจ ผมเองก็ยังเฉยๆ เลย แต่ก็ไม่เลวร้ายจนถึงขึ้นต้องสาปส่ง อย่างน้อยฉากบู๊ก็ถือว่าดี ความเท่ห์ก็มีพอ